ในเดือนแห่งความรักนี้เอาใจคนโสดกันบ้าง วันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องรางต่างๆ ในแต่ละประเทศ ที่นำโชคด้านความรักมาให้ดูกัน สำหรับคนที่อยากได้เครื่องรางเพื่อมาช่วยตามหารักแท้

เครื่องรางความรักของ ญี่ปุ่น
สำหรับเครื่องรางที่ช่วยด้านความรัก ทางฝั่งญี่ปุ่นจะเป็นสายมุ้งมิ้งดูน่ารัก ที่ดังๆ ก็เครื่องรางจากวัดอาซากุสะ วัดชื่อดังในโตเกียวที่ใครๆ ก็แวะไปขอพร และถ้าใครอยากได้แฟนดีๆ ก็ต้องไปศาลเจ้าโนโนมิยะ ที่เกียวโต ซึ่งอยู่ในบริเวณป่าไผ่อาราชิยามะ เพราะเป็นที่เลื่องลือว่าเครื่องรางความรักของเก็นจิจะช่วยให้เจอแต่คู่ครองที่เป็นคนดี

เครื่องรางความรักของ ฮ่องกง
เขยิบเข้ามาใกล้บ้านเรากันอีกซักหน่อย สำหรับเกาะฮ่องกงถ้าพูดถึงเรื่องเครื่องรางความรักหลายๆ คนคงจะเดาถูกว่าต้องไปหาที่ไหน ซึ่งก็คือวัดหวังต้าเซียนนั่นเอง โดยคนส่วนมากจะมาขอพรกับเทพหยุคโหลวซึ่งเป็นเทพที่คอยผูกดวงชะตาคู่รักด้วยด้ายแดงไม่ให้แคล้วคลาดจากกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะเดินไปขอพรแล้วผูกด้ายแดงได้เลย เพราะมีพิธีผูกด้ายที่จะต้องประสานมือเป็นท่าต่างๆ ตามขั้นตอนให้ถูกต้องซะก่อน ถึงจะสัมฤทธิ์ผล

เครื่องรางความรักของ พม่า
มาถึงประเทศเพื่อนบ้านของเรากันบ้าง เทพทันใจที่พม่ามีชื่อเสียงในด้านความศักดิ์สิทธิ์มาก รวมไปถึงเรื่องความรัก และปัจจุบันเทพทันใจมีหลายองค์โดยองค์ที่คนไทยไปขอพรเยอะที่สุดก็คือเทพทันใจนัตโบโบยี เจดีย์โบตาทาวน์ โดยการขอพรจะต้องขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น โดยนำธนบัตร 2 ใบไปใส่ในมือท่าน และอธิษฐานขอพร จากนั้นดึงธนบัตรกลับมา 1 ใบเพื่อเก็บไว้เป็นเครื่องราง และเอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของท่าน

เครื่องรางความรักของ ไทย
มาถึงพี่ไทยกันบ้าง เครื่องรางความรักของไทยจะแบ่งเป็น 2 สาย คือสายพรายกับสายขาว สายพรายจะเน้นผสมด้วยมวลสารที่แรง เช่นผงกระดูก, ตะปูโลงศพ, ดินป่าช้า ซึ่งเชื่อว่าบูชาแล้วจะได้ผลไว จัดสร้างมาในรูปแบบของ แม่เป๋อ, อิ้นคู่ ส่วนสายขาวจะไม่ใช้มวลสารของอาถรรพ์ แต่จะใช้วัตถุมงคล เช่น ผ้ายันต์, ตะปูหลังคาวัด, ผงพระ จัดสร้างมาในรูปแบบของ สาริกา พระขุนแผน ซึ่งเน้นการปลุกเสกที่เป็นมงคล บูชาง่ายไม่อันตราย

“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องเครื่องรางต่างๆ ล้วนเป็นความเชื่อส่วนบุคคล หากทำตัวเป็นดีมีน้ำใจ ใครๆ ก็รัก ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้ แต่ถ้าอยากมีเครื่องรางพกไว้ให้อุ่นใจก็ไม่เสียหาย”

Cr.ขอบคุณบทความดีและภาพจาก : https://news.kaidee.com/2019/02/21/love-amulet/